
จากผู้เล่นที่ใครหลายคนมองว่าเป็นจับฉ่ายของบาร์เซโลนา วันนี้เขากลับทำให้ใครหลายคนลืมชื่อ แดเนียล อัลเวส ไปชั่วขณะ
แทงบอล สาวกอาซูลกรานาทั่วโลกได้รับข่าวร้ายก่อนฤดูกาล 2016-17 จะเปิดฉากขึ้น เมื่อ แดเนียล อัลเวส หนึ่งในเสาหลักที่นำทีมโกยแชมป์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ประกาศย้ายไปสวมยูนิฟอร์มของยูเวนตุสเพื่อหาความท้าทายใหม่ ท่ามกลางความกังวลใจของแฟนบอลหลายคนว่า ใครจะเข้ามาอุดช่องว่างของแบ็คขวาที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร?
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าฟูลแบ็คจอมบุกจากแดนแซมบ้ามีส่วนสำคัญกับความสำเร็จของทีมในทศวรรษนี้ การขึ้นเกมรุกทางกราบขวาของเขาคือหนึ่งในอาวุธเด็ดของบาร์ซาที่ใช้โจมตีคู่แข่งมานับครั้งไม่ถ้วน 23 โทรฟี่ จากระยะเวลา 8 ปีกับสโมสร พิสูจน์ถึงความยอดเยี่ยมของเขาได้เป็นอย่างดี ตอนนี้ทุกสายตาล้วนจับจ้องมาที่ หลุยส์ เอ็นริเก้ เทรนเนอร์คนเก่งของทีมว่าจะจัดการแก้ไขปัญหานี้อย่างไร?
หลายคนเดาว่า เขาอาจใช้บริการของ อเล็กซ์ บิดัล ที่ดึงมาจากเซบีญาเมื่อปีก่อน บ้างก็คิดว่าเขาอาจดึงแบ็คขวาระดับท็อปตัวใหม่เข้ามาเสริม (มีข่าวกับ เอ็คตอร์ เบเยริน) แต่สุดท้ายเฮดโค้ชชาวสแปนิชกลับเลือกดันผลผลิตของสโมสรอย่าง เซร์จี โรเบร์โต้ ยืนตำแหน่งนี้แบบเต็มตัวในปีนี้ ทั้งที่นักเตะไม่ใช่ฟูลแบ็คอาชีพ
แข้งวัย 24 กะรัต ย้ายเข้า ”ลา มาเซีย” โรงเรียนลูกหนังชื่อดังของบาร์เซโลนาเมื่อปี 2006 และลงเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกมาโดยตลอด ทั้งในทีมเยาวชน, ทีมสำรอง รวมถึงทีมชุดใหญ่ในยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ดังนั้นเขาจึงไม่เคยมีประสบการณ์กับการลงเล่นในตำแหน่งแบ็คขวามาก่อน จนกระทั่ง หลุยส์ เอ็นริเก้ ก้าวเท้าสู่ถิ่นคัมป์นูในฐานะกุนซือใหญ่คนใหม่
อดีตกัปตันทีมชาติสเปนเคยร่วมงานกับโรเบร์โต้มาก่อนตอนคุมทีมชุดเบของสโมสร ก่อนพเนจรไปรับงานคุม อาแอส โรมา และ เซลต้า บีโก้ เขาจึงเล็งเห็นศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวนักเตะเป็นอย่างดี ก่อนตัดสินใจจับเด็กคนนี้โยกมาเล่นแบ็คขวาในช่วงซัมเมอร์ปี 2015 (ตอนนั้นอัลเวสทำท่าว่าจะย้ายทีมหลังสัญญากำลังจะหมด ก่อนกลับลำต่อสัญญาใหม่อีก 2 ปีในภายหลัง)
โรเบร์โต้ถูกส่งลงเล่นในตำแหน่งใหม่ตั้งแต่ช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลในเกมบุกเฉือน แอธ.บิลเบา 0-1(อัลเวสเจ็บตั้งแต่ 19 นาทีแรก) นั่นคือเกมอย่างเป็นทางการนัดแรกของเขากับบทบาทใหม่ ใครจะไปเชื่อว่าเพียงไม่นานเขาจะยกระดับฝีเท้าจนกลายเป็นแบ็คขวาที่สมบูรณ์แบบของบาร์ซาเหมือนในเวลานี้
พัฒนาการของดาวเตะชาวสแปนิชนั้นน่าทึ่งมาก เขาทำความเข้าใจกับบทบาทใหม่ในเวลาเพียงแค่ 1 ปี ไม่ว่าจะเป็น ไลน์การวิ่ง, การตั้งเกมรับ, การเติมเกมรุก และ การยืนตำแหน่ง เขาทำทุกอย่างได้อย่างไร้ที่ติทั้งที่แตกต่างจากตำแหน่งเก่าอย่างสิ้นเชิง พร้อมทั้งสถาปานาตัวเองกลายเป็นแบ็คขวาตัวเลือกอันดับหนึ่งของทีมแชมป์ยุโรป 5 สมัยแบบเหนือความคาดหมาย
โรเบร์โต้ทำผลงานในตำแหน่งแบ็คขวาสุดเนียนตาในฤดูกาลนี้และได้รับคำชื่นชมมากมายจากคนในวงการลูกหนัง โดยเฉพาะในเกมล่าสุดนัดบุกถลุง สปอร์ตติง กิฆอน 0-5 นั้น เขาโชว์ฟอร์มชนิดกลบรัศมีบรรดาแข้งซูเปอร์สตาร์ร่วมทีม มีส่วนสำคัญกับการเดินเกมรุกทางกราบขวาของทีมตลอดทั้งเกม และโชว์การเปิดบอลสุดแม่นยำด้วยการทำ 2 แอสซิสต์ เพิ่มสถิติถวายพานให้เพื่อนยิงของตัวเองในปีนี้เป็น 4 ลูก มากกว่าผู้เล่นทุกคนในลาลีก้า จากการลงเล่นเพียง 4 เกม
ผู้สันทัดกรณีฟุตบอลสเปนมองว่า โรเบร์โต้ประสบความสำเร็จกับบทบาทแบ็คขวา เพราะเขาซึมซับวัฒนธรรมและรูปแบบเกมของบาร์เซโลนามาตั้งแต่ตอนอยู่”ลา มาเซีย” ทำให้เขาเข้าใจวิธีการเล่นและการเคลื่อนที่ของทีมในทุกตำแหน่งอย่างถ่องแท้จึงไม่มีปัญหากับการปรับตัว ในทางตรงข้ามเขาอาจทำได้ไม่ดีขนาดนี้หากต้องลงเล่นกับทีมที่มีรูปแบบการเล่นแตกต่างออกไป
“ผมชมเกมเยอะมากและผมไม่เห็นแบ็คขวาคนไหนที่ดีไปกว่า เซร์จี้ โรเบร์โต้ เลย”
“อย่างน้อยกับบาร์เซโลนาที่มีบอลในครอบครองเสมอ ผมดีใจที่เขารู้สึกดีในตำแหน่งนี้”
หลุยส์ เอ็นริเก้ ผู้ผลักดันโรเบร์โต้จนได้ดิบได้ดีเห็นด้วยกับประเด็นข้างต้น หลังเอ่ยปากชื่นชมนักเตะว่าเป็นแบ็คขวาที่ดีที่สุดสำหรับทีมที่เน้นครองบอลอย่างบาร์ซา
ฟอร์มอันโดดเด่นของโรเบร์โต้ไปเตะตา ฆูเลน โลเปเตกี ผู้จัดการทีมคนใหม่ของทีมชาติสเปนอย่างจัง จนถูกเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่ในเกมคัดบอลโลก 2016 เมื่อเดือนที่ผ่านมา และนักเตะก็ใช้โอกาสนี้แสดงความสามารถอันหลากหลายจนสร้างความประทับใจให้กับใครหลายคนยิ่งขึ้นไปอีก
โรเบร์โต้ได้โอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่งแบ็คขวาในเกมเปิดรังรับมือลิกเทนสไตน์ ทว่ารูปเกมของทีมกระทิงดุกลับดูอึดอัดตลอด 45 นาทีแรก ทำสกอร์นำทีมสมันน้อยร่วมยุโรปเพียง 1-0 เท่านั้น ด้วยเหตุนี้โลเปเตกีจึงแก้เกมด้วยขยับดาวโรจน์จากบาร์ซาขึ้นไปช่วยทำเกมในแดนกลางอีกแรงในครึ่งหลัง
เขาไม่ทำให้เจ้านายต้องผิดหวัง พลิกโฉมเกมแดนกลางของทีมดูดีขึ้นทันตา การเคลื่อนที่ของเขาช่วยให้เกมรุกของสเปนดูไหลลื่นและหาช่องเข้าทำได้มากขึ้น ผลปรากฎว่าพวกเขาดาหน้าบุกแหลกก่อนบวกสกอร์เพิ่มอีก 7 ลูกในครึ่งหลัง โดย 1 ในนั้นเป็นผลงานของลูกหม้อจากเจ้าบุญทุ่มด้วย นี่คือจุดเด่นที่ทำให้เขาพิเศษกว่าผู้เล่นรายอื่น
จริงอยู่มีนักเตะสารพัดประโยชน์มากมายบนโลกใบนี้ที่เล่นได้มากกว่า 1 ตำแหน่ง แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถทำผลงานได้สมบูรณ์แบบในทุกตำแหน่งที่ได้รับมอบหมายเหมือนอย่างที่ เซร์จี โรเบร์โต้ พิสูจน์ตัวเองทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ
ก่อนหน้านี้โรเบร์โต้ถูกมองว่าเป็นแข้ง”จับฉ่าย” หลังเคยถูกส่งลงเล่นถึง 7 ตำแหน่ง แต่ตอนนี้เขากลับยกระดับตัวเองจนกลายเป็นผู้เล่นในอุดมคติของสโมสร หากเปรียบเป็นเมนูอาหาร จับฉ่ายชามนี้คงกลายสภาพเป็นเมนูเหลาระดับ 5 ดาวไปแล้ว